วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

มาตามสัญญาค่ะ วันนี้เรามีอีกวิธีจะมาให้ทุกคนได้รู้จักกัน และ เราจะให้ทุกคนได้รู้ถึงคุณสมบัติ การเลือกกระดาษซับลิเมชั่นด้วยค่ะ  ไปเลยยย

กระดาษซับลิเมชั่นคือ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซับลิเมชั่น
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับกระดาษซับลิเมชั่นกันก่อน กระดาษซับลิเมชั่นก็ดูๆ เหมือนจะคล้ายกับกระดาษอาร์ทหรือกระดาษปอนด์โดยทั่วๆ ไปที่เราใช้ในการเขียนหนังสือ วาดรูป หรือพิมพ์รายงานค่ะ แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่กระดาษซับลิเมชั่น จะมีคุณสมบัติพิเศษที่เหนือกว่ากระดาษทั่วไปคือ น้ำหมึกที่พิมพ์ลงบนกระดาษจะสามารถถ่ายเทออกได้ง่ายเมื่อถูกแรงกดและความร้อนค่ะ ซึ่งจะนำมาใช้กับการพิมพ์เสื้อผ้าแบบดิจิตอลทรานส์เฟอร์ หรือเรียกเต็มๆ ว่า Digital Dye Sublimation Transfer ซึ่งเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน สเปกที่เราจะมักได้ยินกันส่วนใหญ่ ก็จะมีการแบ่งตามความหนาแน่นของเนื้อใยกระดาษ เหมือนกับกระดาษโดยทั่วไปค่ะ อย่างที่เคยได้ยินว่า กระดาษ A4  รีมนี้ ขนาด 100 แกรม ส่วนรีมนี้ แค่ 70 แกรม ซึ่งยิ่งเลขแกรมเยอะ ก็จะหนากว่า และราคาก็มักจะเพิ่มขึ้นตามหน่วยแกรมที่เพิ่มขึ้นด้วย
ความหนากแน่นระดาษ
คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เราจะวัดความหนาแน่นของกระดาษแล้วนำมาเป็นหน่วยในการแบ่งประเภท เพราะเนื่องจากมันบางมากๆ วิธีการที่เราใช้กันก็คือใช้การชั่งน้ำหนักค่ะ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่ากระดาษหนาย่อมมีน้ำหนักมากกว่ากระดาษบาง โดยการวัดจะวัดน้ำหนักของกระดาษเทียบกับขนาดพื้นที่ 1 ตารางเมตร หน่วยที่ใช้จึงเขียนแบบเต็มๆ เป็นน้ำหนักกระดาษ เช่น กรัมต่อตารางเมตร หรือ g/ sq.m. หรือ gram per square-meter หรือ gsm. หรือเรียกสั้น อย่างที่เราคุ้นเคยกันว่า “แกรม” นี่แหล่ะค่ะ
แล้วจะเลือกกระดาษซับลิเมชั่นอย่างไร..?
อย่างแรกเลย การเลือกใช้กระดาษซับลิเมชั่นนั้น ต้องดูที่ความหนาแน่นของกระดาษ โดยปกติเราจะคุ้นเคยกันอยู่สองสามขนาดค่ะ เช่น กระดาษซับลิเมชั่น ขนาด 105 แกรม  หรือกระดาษซับลิเมชั่นขนาด 100 แกรม ใช่ว่ากระดาษที่หนาแน่นกว่าจะดีกว่าเสมอไป อีกเรื่องที่เราต้องดูและเข้าใจกันคือเรื่องของความสามารถในการรองรับหมึกค่ะ ศัพท์ทางวงการเราจะเรียกกว่า การดูค่า Ink Limit ของกระดาษ แน่นอนอยู่แล้วว่า ถ้ากระบวนการผลิตและคุณภาพของเส้นใยแบบเดียวกัน กระดาษขนาด 105 แกรม ย่อมจะสามารถรองรับปริมาณน้ำหมึกได้มากกว่ากระดาษที่มีขนาด 100 แกรม เนื่องจากมีความหนาแน่นของเนื้อกระดาษอยู่ แต่ใช่ว่ากระดาษที่มีขนาด 105 แกรมเหมือนๆ กันจะรองรับหมึกได้ดีเท่ากันนะคะ เพราะมันจะขึ้นอยู่กับคุณภาพเส้นใยด้วยค่ะ ดังนั้นต้องเลือกให้ดี เพราะกระดาษที่มีความสามารถในการรองรับหมึกได้ดี แน่นอนว่า มีโอกาสในการถ่ายเทหมึกขณะทรานส์เฟอร์ลงเนื้อผ้าได้ดีกว่า ซึ่งเราจะได้สีของงานที่สดกว่า สวยกว่า




เราได้รู้จักกระดาษทรานเฟอร์ไปแล้วพอสมควร  คราวนี้เราจะมาแนะนำอีกวิธีหนึ่งค่ะนั่นก็คือการใช้
บล็อกสกรีนนั่นเองค่ะ

การสกรีนเสื้อ การทำบล็อกสกรีน สำหรับงานซับลิเมชั่นและกระดาษทรานเฟอร์



1. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ต่อไปนี้
  • บล็อกสกรีนเสื้อเปล่า
  • ต้นแบบลาย อาจมาจากการออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือภาพวาดต่าง ๆ
  • สติ๊กเกอร์
  • Art Knife
  • ลูกกลิ้งยาง
  • กระดาษกาว
  • เทปหนังไก่
  • แผ่นรองตัด
กระดาษทรานเฟอร์

2. เอาต้นแบบลายมาตัดเป็นสติ๊กเกอร์ จากนั้นเอาไปติดกับสติ๊กเกอร์ แล้วจึงตัดตามแบบ
กระดาษทรานเฟอร์
3. เมื่อตัดเสร็จแล้วก็จะได้ สติ๊กเกอร์ออกมา 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นลวดลาย (ส่วนที่ตัด) และส่วนที่เป็นกรอบ (ส่วนที่เหลือ)
กระดาษทรานเฟอร์

4. นำส่วนที่เป็นกรอบมาติดลงบนบล็อกสกรีน
กระดาษทรานเฟอร์
5. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อไปนี้
  • ที่ปาดสี ใช้กระดาษลังตัดแล้วกระกบซ้อนกัน 2 ชั้น (ยางปาดสีที่เค้าใช้ในงานสกรีนจริงๆ ไซส์ เท่ากับกระดาษลังตัวนี้ ราคาประมาณอยู่ที่ 500+)
กระดาษทรานเฟอร์
  • สีสกรีน
  • น้ำยาผสมสี
  • ถ้วยผสมสีสกรีน
กระดาษทรานเฟอร์

2. ขั้นตอนการสกรีน
กระดาษทรานเฟอร์
  1. เตรียมที่ปาด (สีแดงในรูป) และบล็อกลายสกรีนที่เตรียมไว้แล้วให้พร้อม
  2. ผสมสีในชามผสมแล้วเตรียมการเกลี่ยสี (โดยใช้ที่ปาด)
  3. เกลี่ย สีลงในบล็อกให้สม่ำเสมอโดยสังเกตุจากการที่สีลงไปอยู่บนเนื้อผ้าสกรีนเต็ม ทุกส่วน (ขั้นตอนนี้เราจะยังไม่ยุ่งเกี่ยวกับเสื้อหรือวัตถุที่เราจะสกรีน)
  4. เมื่อ เราเกลี่ยสีได้สม่ำเสมอแล้ว ให้นำบล็อกลงไปวางทาบที่เสื้อหรือวัตถุที่เราจะสกรีน (ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะสามารถวางได้ครั้งเดียว เนื่องจากสีที่เราปาดรอบแรกเพื่อเกลี่ยสีนั้น ส่วนหนึ่งได้ซึมผ่านบล็อกไปแล้ว)
3. ทำการปาดสี โดยปาดเข้าหาตัวและปาดไปในทิศทางเดียวกันซ้ำอีก 1-2 ครั้ง โดยไม่ต้องเพิ่มสีอีก
4. เอาไดร์เป่าผมเป่าลมร้อนที่ลายสกรีนประมาณ 5 นาที แล้วนำเสื้อไปผึ่งลมทิ้งไว้ จนกว่าสีจะแห้ง เป็นอันเสร็จ
กระดาษทรานเฟอร์


เราจะทยอยนำเสนอวิธีการสกรีนเสื้อแบบอื่นด้วยค่ะ  เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักวิธีการอื่นๆกันมากขึ้น และเป็นความรู้ด้วยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีวิธีการใดอีกบ้างล่ะก็ติดตามชมกันนะคะ





เมื่อได้ชมวีดีโอการสกรีนเสื้อด้วยกระดาษทรานเฟอร์ไปแล้ว  บางคนอาจจะสงสัยว่ากระดาษทรานเฟอร์เนี่ยมันคืออะไร และแน่นอนค่ะวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับมันกัน พร้อมแล้วไปกันเลยค่าาา


กระดาษทรานเฟอร์คืออะไร?


กระดาษทรานเฟอร์คืออะไร? กระดาษทรานเฟอร์ คือกระดาษประเภทหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และงานฝีมือต่าง ๆ ด้านการพิมพ์ภาพลงบนวัตถุใด ๆ เช่น การสกรีนเสื้อ การลอกลายลงบนพื้นผิววัสดุต่าง ๆ หรือที่เราพบเห็นทั่วไปตามท้องตลาดคือ การสกรีนลายเคสโทรศัพท์มือถือ โดยใช้ความร้อนเป็นสื่อกลางในกระบวนการทำงานการถ่ายโอนภาพลงบนผืนกระดาษ ผืนผ้าใบ หรือพื้นผิวใด ๆ ที่สามารถพิมพ์ได้ ซึ่งกระดาษทรานเฟอร์สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์งานพิมพ์เหล่านี้ได้ หรือเรียกงานพิมพ์ประเภทนี้ว่า iron-ons และในปัจจุบันกระดาษทรานเฟอร์สำหรับใช้ในการสกรีนเสื้อมีอยู่หลายประเภท โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. กระดาษทรานเฟอร์อิงค์เจ็ท
กระดาษทรานเฟอร์สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ซึ่งจะไม่สามารถพิมพ์สีขาวได้ ดังนั้นสำหรับพื้นผิวที่มีสีขาว หากมีการถ่ายโอนความร้อนลงสู่พื้นผิวนั้นแล้วนั้น ภาพที่แสดงให้เห็นจะคล้ายกับการมองภาพผ่านกระจกเงา แต่สำหรับพื้นผิวที่มีสีเข้มจะทำงานตรงข้ามกัน

2. กระดาษทรานเฟอร์ซับลิเมชั่น
สำหรับกระดาษทรานเฟอร์ซับลิเมชั่น ถูกนำมาใช้ในการย้อมผ้า จำพวกผ้าโพลีเอสเตอร์ โพลีคอตตอน ไมโครไฟเบอร์ ไนลอน เป็นต้น โดยกระบวนการพิมพ์นี้ สีหมึกจะแปลเปลี่ยนเป็นก๊าซ แต่จะไม่ผ่านขั้นตอนที่เป็นของเหลวไป ซึ่งกระบวนการนี้หมึกจะมีความคงทนและยึดเกราะสูง จึงสามารถนำมาใช้ในงานฝีมือ อาทิเช่น งานเซรามิก งานไม้ แก้ว หรือโลหะ เป็นต้น

3. กระดาษทรานเฟอร์เลเซอร์
กระดาษทรานเฟอร์สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ กระบวนการทำงานจะคล้ายคลึงกับกระบวนการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท แต่เลเซอร์จะมีความคมชัด และรวดเร็วกว่า เพราะหลักการทำงานของเครื่องพิมพ์เลเซอร์คือการให้ความร้อน ในการหลอมละลายผงหมึก เพื่อฉาบลงไปบนกระดาษ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะยึดเกาะบนเนื้อผ้าได้ด้วยตัวมันเอง การยึดเกาะยังต้องอาศัยฟิลม์ (โพลิเมอร์) เป็นตัวช่วยเช่นเดียวกับกระดาษทรานเฟอร์อิงค์เจ็ท ดังนั้นกระดาษทรานเฟอร์แบบเลเซอร์จึงคงต้องมีชั้นฟิลมม์โพลิเมอร์เคลือบอยู่เช่นเดียวกัน
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสกรีนเสื้ออีกวิธีหนึ่งค่ะและมีพระเอกของงานนี้ด้วย.......กระดาษทรานเฟอร์นั่นเองงงงง
สงสัยกันใช่มั้ยคะว่า ไอ้เจ้ากระดาษทรานเฟอร์เนี่ยจะทำได้อย่างไร อย่ามัวแต่สงสัยค่ะ ไปดูกันเลยยย


เป็นไงบ้างคะ ดูแล้วไม่ยากเลยใช่มั้ย เพียงเท่านี้เราก็ได้เสื้อสวยๆใส่กันแล้ว

วันนี้เรามีวีดีโอการสกรีนเสื้อใส่เองมาแนะนำค่ะ ใครที่กำลังอยากได้เสื้อสวยใส่เองแบบไม่เปลืองตังค์ล่ะก็เตรียมอุปกรณ์แล้วทำตามวีดีโอได้เลยค่ะ




สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแนะนำวิธีสกรีนเสื้อด้วยตัวเองนะคะ How to : สกรีนลายเสื้อยืดง่ายๆ ด้วยอุปกรณ์งานฝีมือไม่กี่ชนิด Grape10/11/2014 How To สกรีนลายเสื้อยืด Screen T-shirt จะสกรีนลายลงบนเสื้อยืด กระเป๋า หรือผ้าต่างๆ ก็ไม่ยากอีกต่อไปแล้ว เพราะวันนี้ Blisby.com จะชวนมาสกรีนลายด้วยอุปกรณ์รอบตัวที่คนรักงานฝีมือมีอยู่แล้ว แต่หากไม่มีติดบ้านก็หาซื้อได้ง่ายๆ ค่ะ อุปกรณ์หลักๆ ใช้แค่สะดึง ถุงน่อง กาว Modge podge เท่านั้นเองค่ะ ฟังดูแปลกใช่ไหม แต่ทำจริงๆ ไม่ยากเลย แถมสวยด้วยนะคะ วัสดุและอุปกรณ์สำหรับสกรีนลายเสื้อยืด เสื้อยืด กาวยี่ห้อ Modge podge หรือกาวสำหรับทำงานฝีมือ (Crafts Glue) สีเพนต์ผ้า กระดาษแข็ง ลายที่ต้องการสกรีนลงบนเสื้อ สะดึง เลือกให้ใหญ่กว่าลายที่ต้องการสกรีน ถุงน่อง พู่กัน ปากกามาร์กเกอร์ tools and materials for DIY screenprint Tshirt วิธีทำ เริ่มจากวางสะดึงลงบนกระดาษเพื่อวัดว่าสามารถออกแบบลายให้ใหญ่ได้มากแค่ไหนค่ะ ตัดถุงน่องเป็นผืนใหญ่ แล้วนำมาขึงสะดึงให้ตึงค่ะ วาดลายลงบนกระดาษ แล้ววางสะดึงพร้อมถุงน่องทับลงไปเพื่อลอกลาย ข้อควรระวัง!! ถ้าเป็นตัวอักษรก็ต้อง Mirror หรือกลับด้านตัวอักษรด้วยค่ะ ขอแนะนำวิธีง่ายๆ เลยคือวาดลายลงบนกระดาษบางๆ หรือกระดาษลอกลาย แล้วจึงพลิกกระดาษอีกด้านเพื่อลอกลายลงบนถุงน่องค่ะ อย่างรูปหัวใจไม่จำเป็นต้องกลับด้าน ก็ลอกลายได้เลยค่ะ ทำบล็อกลายสกรีน Making block screen ทากาว Mod Podge ลงบนถุงน่องส่วนที่ไม่ใช่ลายค่ะ หรือก็คือส่วนที่เราไม่ต้องการให้สีติดลงบนผ้าเวลาทำการสกรีนลายค่ะ ทากาวให้ทั่วบริเวณ อย่าให้เกิดช่องว่างนะคะ เล็กๆ ก็ไม่ได้ค่ะ เพราะสีจะซึมไปติดเสื้อได้ ทิ้งไว้ให้กาวแห้งอย่างต่ำ 3 ชั่วโมง หรือจะให้ดีก็ทิ้งไว้สัก 1 คืนเลยค่ะ บล็อกสำหรับสกรีน Block screen ถึงขั้นตอนการสกรีนลายลงเสื้อยืดแล้วค่ะ! วางสะดึงราบไปกับเสื้อยืดตรงตำแหน่งที่ต้องการค่ะ และอย่าลืมสอดกระดาษแข็งเข้าไปด้านล่างระหว่างตัวเสื้อนะคะ กันไว้ไม่ให้สีซึมไปติดผ้าอีกด้านค่ะ หยดสีลงไปตรงกลาง จากนั้นใช้กระดาษแข็งปาดสีให้ทั่วสะดึงเลยค่ะ ป้ายสีลงไปในบล็อกสกรีนน Use the cardboard to spread the paint ค่อยๆ ยกสะดึงออกอย่างเบามือนะคะ พยายามยกขึ้นตรงๆ สีจะได้ไม่เลอะเทอะค่ะ ปล่อยให้สีแห้งสนิทก่อนจะซักและสวมใส่นะคะ โดยทิ้งไว้สัก 1-2 คืนค่ะ ลายหัวใจสกรีนลงบนเสื้อ the screenprint on the T-shirt แถมท้ายสำหรับการทำลายตัวอักษรตรงกลางหัวใจค่ะ ให้กลับด้านตัวอักษรก่อนลอกลายลงบนถุงน่อง และทากาว Mod Podge ตรงตัวอักษรค่ะ ซึ่งเป็นส่วนที่เราไม่ต้องการให้มีสีค่ะ ดูตัวอย่างในรูปได้เลยค่ะ วิธีทำบล็อกลายตัวอักษร alphabet printscreen blockเสื้อยืดสกรีนลาย Screenprint T-shirtเสื้อยืดสกรีนลาย Screenprint T-shirt ถ้าเพื่อนๆ ลองทำแล้วอย่าลืมแบ่งปันให้พวกเราดูทาง Facebook ของ Blisby บ้างนะคะ และถ้าชอบบทความของเรา อย่าลืมกดไลก์หรือแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน Blisby.com สร้างสรรค์ผลงานต่อไปด้วยนะคะ ส่วนเพื่อนๆ คนไหน ทำแล้วติดใจ อยากทำขาย มีแบรนด์เป็นของตัวเอง หรือแบ่งปันงานฝีมือของเราให้เพื่อนๆคนอื่นได้ใช้บ้าง ก็สามารถเปิดร้านง่ายๆได้ฟรี ได้ที่นี่เลยค่ะ www.blisby.com/selling-start หากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม หรืออยากแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับงานคราฟต์ สามารถแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ที่มา : mycalicoskies.blogspot.co.nz